Lenovo จากบริษัทไม่มีใครรู้จัก สู่แบรนด์คอมพิวเตอร์ ขายดีสุดในโลก /โดย ลงทุนแมน
ผู้ที่ครองส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PC ได้มากที่สุดในโลกก็คือ “Lenovo” แบรนด์จากประเทศจีน ที่สามารถแซง HP และ Dell จากสหรัฐอเมริกา จนขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ของโลกได้เป็นครั้งแรกเมื่อปี 2013 และยังคงรักษาตำแหน่งอันดับ 1 ได้จนถึงปัจจุบัน
Lenovo ยังถือเป็นบริษัทจีนที่ก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทระดับโลกได้เป็นบริษัทแรก ๆ ก่อนบริษัทระดับโลกในยุคปัจจุบันอย่างเช่น Alibaba, Tencent, Huawei และ Xiaomi
แล้ว Lenovo ทำได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
จากข้อมูลของ Gartner ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านเทคโนโลยีชั้นนำของโลก จำนวน PC ที่ส่งมอบทั้งปี 2020 แบรนด์ที่ครองส่วนแบ่งตลาดโลกได้มากที่สุดก็คือ
อันดับ 1 Lenovo จากจีน 24.9%
อันดับ 2 HP จากสหรัฐอเมริกา 21.2%
อันดับ 3 Dell จากสหรัฐอเมริกา 16.4%
อันดับ 4 Apple จากสหรัฐอเมริกา 8.2%
อันดับ 5 Asus จากไต้หวัน 6.0%
คำว่า PC ในความหมายของ Gartner จะแปลว่าคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ซึ่งครอบคลุมผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ และแล็ปท็อป
แล้วก่อนจะกลายมาเป็นบริษัทที่ขาย PC ได้มากที่สุดในโลก Lenovo มีจุดเริ่มต้นอย่างไร ?
ย้อนกลับไปในปี 1984 หรือเมื่อ 37 ปีก่อน ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
“Liu Chuanzhi” เป็นนักวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ที่ทำงานวิจัยอยู่ที่สถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน (CAS)
ตอนนั้น คุณ Liu รู้สึกว่าสิ่งที่คิดค้น มักจะจบลงแค่ในห้องทดลองและไม่ได้ถูกต่อยอดนำไปใช้ประโยชน์กับคนหมู่มาก
คุณ Liu ในวัย 40 ปี จึงขอเงินทุนจาก CAS มาได้ 2 แสนหยวน หรือราว 1 ล้านบาท เพื่อเปิดบริษัทเกี่ยวกับสินค้าเทคโนโลยีเอง
หลังจากได้ทุนมาแล้ว เขาก็ได้รวบรวมทีมงานที่เป็นนักวิทยาศาสตร์และวิศวกรคอมพิวเตอร์ชาวจีนอีก 10 คนและได้ก่อตั้งบริษัท ในตอนแรกชื่อว่า “Legend”
ในเวลานั้น ถือเป็นจังหวะที่ดี เพราะประเทศจีนกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จากยุคเหมาเจ๋อตง ที่ระบบเศรษฐกิจถูกวางแผนโดยรัฐและไม่ค้าขายกับต่างประเทศ มาเป็นยุคเติ้งเสี่ยวผิง ที่เริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจ
โดยให้ภาคเอกชนมีบทบาทมากขึ้นและเริ่มค้าขายกับต่างประเทศ
แต่ Legend มีอุปสรรคสำคัญก็คือ ด้วยความที่ทีมงานมีพื้นฐานมาจากการเป็นนักวิจัย การเลือกประเภทสินค้าจึงไม่ค่อยตรงกับความต้องการของตลาด ซึ่งก็ได้ทำให้บริษัทต้องลองผิดลองถูกอยู่หลายครั้ง
โดย Legend เริ่มจากการนำเข้าโทรทัศน์สีมาขายแต่ล้มเหลว
จึงเปลี่ยนมาพัฒนานาฬิกาข้อมือดิจิทัล แต่ก็ล้มเหลว
พอเปลี่ยนมาให้บริการตรวจสอบคุณภาพคอมพิวเตอร์ก่อนถึงมือลูกค้า ก็ยังคงล้มเหลว
จนกระทั่ง Legend หันมาลงทุนพัฒนาแผ่นวงจรพิมพ์ หรือ PCB เพื่อให้คอมพิวเตอร์ของ IBM ที่นำเข้ามา ใช้งานเป็นภาษาจีนได้ ซึ่งก็ถือว่าได้ผลตอบรับดี
หลังจากนั้น Legend จึงได้เริ่มนำเข้าคอมพิวเตอร์จากต่างประเทศ แล้วขายระบบภาษาจีนพ่วงด้วย
ทำให้คอมพิวเตอร์ที่บริษัทนำเข้ามา ขายดีมาก ซึ่งนี่ถือเป็นจุดเปลี่ยนแรกที่สำคัญ เพราะ Legend ได้เริ่มเรียนรู้ความต้องการของตลาด จากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าต่างประเทศ
ในเวลาต่อมา Legend จึงต่อยอดกิจการด้วยการไปตั้งบริษัทย่อยที่ฮ่องกง เพื่อผลิตและส่งออก PCB จนกระทั่งในปี 1990 บริษัทก็ได้เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์แบรนด์ของตัวเองและสามารถนำบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงได้ในปี 1994
ผลิตภัณฑ์แรก ๆ ของ Legend ที่ประสบความสำเร็จคือเมนเฟรมคอมพิวเตอร์
ก่อนที่บริษัทจะเริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและแล็ปท็อปตามมา
จนในที่สุด Legend ก็มีรายได้หลักมาจากการขายคอมพิวเตอร์ที่เป็นแบรนด์ของตัวเองและได้กลายเป็นแบรนด์คอมพิวเตอร์ที่มียอดขายมากที่สุดในประเทศจีน ด้วยส่วนแบ่งตลาดกว่า 43% ในปี 1998
ซึ่งนอกจากการวิจัยพัฒนาคอมพิวเตอร์แล้ว กลยุทธ์ที่ทำให้ Legend ครองตลาดจีนได้ก็คือการขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากที่สุด รวมถึงการสร้างเครือข่ายและความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจัดจำหน่าย
หลังจากประสบความสำเร็จในประเทศแล้ว Legend จึงตั้งเป้าหมายใหญ่ขึ้น
ด้วยการก้าวสู่ตลาดโลก ภายใต้การนำของ CEO คนใหม่ที่ชื่อว่า “Yang Yuanqing”
คุณ Yang เริ่มงานที่ Legend ตั้งแต่ตอนที่บริษัทเปิดรับสมัครพนักงานครั้งแรกเมื่อปี 1988 โดยเริ่มจากตำแหน่งพนักงานขาย ซึ่งก็สร้างผลงานได้โดดเด่น จนไปเข้าตาประธานบริษัทอย่างคุณ Liu
คุณ Yang จึงได้เลื่อนขั้นมาเป็นหัวหน้ากลุ่มธุรกิจ PC ในวัยเพียง 29 ปี
ก่อนที่จะรับตำแหน่ง CEO ในปี 2001 ขณะที่อายุ 37 ปี
เพื่อเตรียมก้าวสู่ตลาดโลก Legend จึงรีแบรนด์ในปี 2003 ด้วยการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Lenovo” ซึ่งมาจากคำว่า “Le” จากชื่อบริษัทเดิม Legend รวมกับคำว่า “Novo” ที่แปลว่า ใหม่ ในภาษาละติน
ต่อมาในปี 2004 บริษัท IBM ได้ประกาศขายธุรกิจคอมพิวเตอร์
ซึ่ง IBM เป็นบริษัทผู้นำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์จากสหรัฐอเมริกา โดยนับเป็นบริษัทแรก ๆ ในโลกที่เริ่มขาย คอมพิวเตอร์จนมีแล็ปท็อป “ThinkPad” ที่โด่งดัง และครองส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์เป็นอันดับ 3 ของโลกในขณะนั้น เป็นรองจาก Dell และ HP
แต่สาเหตุสำคัญที่ IBM ตัดสินใจขายธุรกิจคอมพิวเตอร์ เพราะมองว่าเทคโนโลยีเครื่องคอมพิวเตอร์ ถูกคู่แข่งเลียนแบบได้ง่าย แถมยังแข่งกันตัดราคาขาย ทำให้อัตราการทำกำไรต่ำ บริษัทจึงอยากโฟกัสธุรกิจที่สร้างกำไรได้ดี อย่างพวกซอฟต์แวร์และกลุ่มให้บริการ มากกว่า
ที่น่าสนใจก็คือ ทั้งที่ Dell ก็เสนอซื้อเช่นกัน แต่ IBM กลับเลือกขายธุรกิจคอมพิวเตอร์ให้กับ Lenovo ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นบริษัทจากประเทศจีนที่แทบไม่มีคนรู้จัก
โดย IBM ให้เหตุผลว่าตอนนั้นรัฐบาลจีนกำลังผลักดันบริษัทจากจีนให้ได้เติบโตในระดับโลก
IBM จึงตอบสนองความต้องการของรัฐบาลจีน เพื่อเปิดโอกาสให้ IBM เข้าไปบุกตลาดจีนได้ง่ายขึ้น
Lenovo ที่อยากขายสินค้าไปทั่วโลก จึงตกลงซื้อธุรกิจคอมพิวเตอร์ของ IBM ในปี 2005 ด้วยมูลค่า 1.75 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 5.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นบริษัทแรก ๆ ของจีน ที่มีดีลการเข้าซื้อกิจการต่างประเทศ
นั่นจึงทำให้ Lenovo ได้โรงงานผลิตคอมพิวเตอร์ของ IBM ที่มีเทคโนโลยีล้ำสมัย ได้ช่องทางการจัดจำหน่ายและฐานลูกค้าทั่วโลก รวมถึงได้ทีมงานจาก IBM ซึ่งทำให้บริษัทมีพนักงานเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
ที่สำคัญก็คือ ไลน์ผลิตภัณฑ์กลุ่ม “Think” ที่ขายดีที่สุดของ IBM อย่าง ThinkPad ที่เป็นแล็ปท็อป และ ThinkCentre ที่เป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ก็จะเปลี่ยนโลโกจาก IBM มาเป็น Lenovo
และนี่คือจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Lenovo ซึ่งแต่เดิมแทบไม่มียอดขายในต่างประเทศเลย สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดจากบริษัทคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่เป็นอันดับ 9 ของโลก ขึ้นมามีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 ของโลก แทนที่ IBM ทันที
นอกจากนี้ การรวมพนักงานนานาชาติของทั้ง 2 บริษัท ทำให้ Lenovo ปรับโครงสร้างกรรมการบริษัทและทีมบริหารให้มีสัดส่วนชาวจีนและอเมริกันเท่า ๆ กัน
อีกมุมที่ Lenovo ให้ความสำคัญไม่แพ้การมีสินค้าขายไปทั่วโลก ก็คือการปรับวัฒนธรรมองค์กร ธรรมาภิบาล รวมถึงมาตรฐานบัญชี ให้มีความเป็นสากล
ยกตัวอย่างเช่น แม้ในตอนนั้นตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงจะกำหนดให้ส่งงบประมาณเพียงปีละ 2 ครั้ง แต่ CFO หญิงผู้วางรากฐานที่สำคัญให้ Lenovo อย่างคุณ Mary Ma เลือกให้บริษัทเปิดเผยงบประมาณปีละ 4 ครั้งเป็นรายไตรมาส ตามมาตรฐานสากล
จากการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ Lenovo จึงเปลี่ยนจากบริษัทท้องถิ่น มาเป็นบริษัทข้ามชาติ
ซึ่งถือได้ว่าเป็นบริษัทข้ามชาติแห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศจีน
แต่หลังจากนั้นไม่นาน Lenovo ก็ต้องเจอความท้าทายครั้งใหญ่ เพราะผลจากวิกฤติการเงินโลกในปี 2008 ทำให้ผลประกอบการปี 2009 ของบริษัทพลิกเป็นขาดทุนมากถึง 7.4 พันล้านบาท
ในปี 2009 คุณ Yang ที่ได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นประธานกรรมการบริษัทในปี 2004 ได้ขอกลับมารับตำแหน่งเป็น CEO อีกครั้งเพื่อนำบริษัทให้กลับมามีกำไร รวมถึงเร่งเพิ่มยอดขายและขยายส่วนแบ่งตลาด ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง แต่คุณ Yang ขอเวลา 4 ปี แล้วค่อยวัดผล
คุณ Yang เริ่มจากการฟื้นฟูตลาดเดิมที่ทำกำไรได้ดีอยู่แล้ว นั่นก็คือ ฐานลูกค้าเดิมจาก IBM อย่าง PC สำหรับลูกค้าองค์กร และฐานลูกค้าเดิมของ Lenovo อย่างตลาดในประเทศจีน
ขณะเดียวกันก็บุกตลาดใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตแรงและมีจำนวนประชากรมาก อย่างเช่น อินเดีย เพื่อขยายฐานลูกค้าไม่ให้พึ่งพาชาวจีน มากเกินไป
ซึ่งกลยุทธ์เชิงรุกนี้ช่วยเพิ่มรายได้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังต้องแลกกับการทุ่มงบประมาณก้อนใหญ่ เพื่อทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และทำการตลาดเพื่อกระตุ้นยอดขาย
Lenovo จึงได้เพิ่มไลน์ผลิตภัณฑ์เพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายขึ้นนอกเหนือจาก ThinkPad ที่เป็นแล็ปท็อปพรีเมียมราคาสูง อย่างเช่น IdeaPad ที่เป็นแล็ปท็อปราคาเข้าถึงง่าย รวมถึง Yoga ที่ฟังก์ชันการใช้งานเป็นได้ทั้งแล็ปท็อปและแท็บเล็ต
นอกจากนี้ Lenovo ได้เร่งขยายส่วนแบ่งตลาดจากการควบรวมกิจการมากมาย ยกตัวอย่างเช่น
ปี 2011 Lenovo ซื้อบริษัทอิเล็กทรอนิกส์เยอรมันที่ชื่อ Medion ทำให้ส่วนแบ่งตลาดของ Lenovo ในเยอรมนีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวทันที และ Lenovo ยังตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท NEC ของญี่ปุ่น ทำให้กลายเป็นบริษัท PC ที่ใหญ่สุดในญี่ปุ่น
ปี 2012 Lenovo ซื้อบริษัทคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่สุดในบราซิลที่ชื่อ CCE ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเจาะตลาดอเมริกาใต้
ปี 2018 Lenovo ซื้อกิจการคอมพิวเตอร์ของ Fujitsu ประเทศญี่ปุ่น
ผลลัพธ์จากแผนงานที่นำทีมโดยคุณ Yang หลังจากวิกฤติการเงินโลก ก็ถือว่าเกินความคาดหมาย
เพราะ Lenovo สามารถเพิ่มสัดส่วนรายได้จากประเทศอื่น ๆ และลดสัดส่วนจากจีนลงได้ จาก 46% ในปี 2010 เหลือเพียง 23% ในปัจจุบัน โดยรายได้ของ Lenovo กว่า 80% ยังมาจากธุรกิจคอมพิวเตอร์
ในด้านของส่วนแบ่งตลาดคอมพิวเตอร์ Lenovo สามารถชนะ Dell จนขึ้นมาเป็นที่ 2 ของโลกได้เป็นครั้งแรกในปี 2011 ก่อนที่จะแซง HP ขึ้นมาเป็นที่ 1 ของโลกในอีก 2 ปีถัดมา และยังครองอันดับ 1 มาจนถึงปัจจุบัน
ความสำเร็จของการปลุกปั้นธุรกิจคอมพิวเตอร์ของ Lenovo ก็ได้ทำให้ คุณ Yang ถูกจัดอันดับให้เป็นหนึ่งใน CEO ที่เก่งที่สุดในโลก รวมถึงผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Liu ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ไฮเทคฮีโรแห่งประเทศจีน”
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
คุณ Liu Chuanzhi ผู้ก่อตั้ง Lenovo มีลูก 2 คน
หนึ่งในนั้นคือลูกสาวที่ชื่อว่า Liu Qing หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า “Jean Liu”
หลังจากที่ Jean Liu จบการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์และทำงานที่ Goldman Sachs มา 12 ปี
เธอก็ย้ายมารับตำแหน่งเป็น COO ให้กับบริษัทสตาร์ตอัปของจีนที่ชื่อ Didi Dache
เธอมีบทบาทสำคัญในการควบรวมกิจการระหว่าง Didi Dache กับบริษัทคู่แข่งอย่าง Kuaidi Dache ในปี 2015 ที่เปลี่ยนมาใช้ชื่อใหม่เป็น “Didi Chuxing” แอปพลิเคชันเรียกแท็กซี่และส่งอาหารอันดับ 1 ของจีน
ปัจจุบัน เธอดำรงตำแหน่งประธานบริษัท ซึ่งเป็นผู้นำคนสำคัญของ Didi Chuxing ร่วมกับผู้ก่อตั้งอย่างคุณ Cheng Wei ที่ดำรงตำแหน่งเป็น CEO และประธานกรรมการ จนถูกจัดอันดับจากนิตยสาร Time ให้เป็น 1 ใน 100 คน ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดในโลกเมื่อปี 2017
ซึ่งก็เรียกได้ว่าลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น เลยทีเดียว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.economist.com/business/2013/01/12/from-guard-shack-to-global-giant
-https://www.economist.com/business/2001/09/13/legend-in-the-making
-https://www.ft.com/content/2bb25562-4ae0-11d9-a0ca-00000e2511c8
-https://www.cnbc.com/2016/12/01/china-based-lenovos-ride-to-top-spot-of-pc-business.html
-https://www.marketwatch.com/story/why-ibm-selling-server-unit-to-lenovo-is-bad-news-for-hp-1390500250
-https://www.wsj.com/articles/the-worlds-largest-pc-maker-is-no-longer-a-bargain-11550742853
-https://www.theverge.com/2012/1/3/2677691/ex-ibm-ceo-revisits-selling-pc-business-samuel-palmisano
-https://en.wikipedia.org/wiki/Lenovo
-https://en.m.wikipedia.org/wiki/Market_share_of_personal_computer_vendors
-https://investor.lenovo.com/en/financial/results.php
同時也有6部Youtube影片,追蹤數超過12萬的網紅戸田覚,也在其Youtube影片中提到,パソコンが壊れたときに直せる期間はメーカーごとに異なります。これを知らずに買うと、2~3年で故障が直せないってこともあるんです! 詳しく紹介します。 なお、メーカーにコメントを求めていますが、まだ返事の来ていないところもあります。情報が集まり次第追記します。 ●dynabookの機種別修理一覧はこち...
nec lenovo 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
ทำไม แบรนด์อิเล็กทรอนิกส์ญี่ปุ่น ได้รับความนิยม ลดลง /โดย ลงทุนแมน
ย้อนกลับไปในช่วง 10 ถึง 20 ปีก่อน
ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นเจ้าแห่งการสร้างสรรค์สินค้าอิเล็กทรอนิกส์
ที่ได้สร้างความฮือฮาให้กับทั่วโลกไว้มากมาย ยกตัวอย่างเช่น
เครื่องเล่นเทปคาสเซตต์แบบพกพา หรือ Walkman
เครื่องเล่นแผ่นซีดีและดีวีดี
เครื่องเล่นเกมอย่าง Game Boy และ PlayStation
เครื่องคิดเลขทางวิทยาศาสตร์อย่าง Casio
แต่ปัจจุบัน สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะที่เป็นนวัตกรรมระดับโลก
อย่างเช่น สมาร์ตโฟน แท็บเล็ต หรือพวกเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เติมคำว่าสมาร์ตเข้าไป
กลับถูกคิดค้นและพัฒนาโดยสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และจีน เป็นส่วนใหญ่
แล้วทำไมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากญี่ปุ่น ไม่ได้เป็นผู้นำเท่าเมื่อก่อน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ช่วงทศวรรษ 1970s ประเทศญี่ปุ่นเริ่มมาเป็นผู้นำด้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ที่โดดเด่นของโลก
โดยเริ่มมาจากการรับเทคโนโลยีจากชาติตะวันตกในช่วงสงคราม และพัฒนาต่อยอด
จนกลายมาเป็นผู้คิดค้นเทคโนโลยีได้เอง อย่างเช่นตัวอย่างเหล่านี้
Sony ขายเครื่องเล่นเทปคาสเซตต์แบบพกพา หรือ Walkman เป็นเจ้าแรกของโลก
Toshiba และ Epson ขายแล็ปท็อปในตลาด Mass เป็นเจ้าแรกของโลก
Kyocera ขายโทรศัพท์มือถือที่มีกล้อง เป็นเจ้าแรกของโลก
หรือถ้าลองสังเกตจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รอบตัวเรา ก็มีเป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นอยู่มากมาย
ยิ่งถ้าเป็นเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน ไอเทมนำสมัยที่ได้รับความนิยมสูงส่วนใหญ่ ก็เป็นแบรนด์จากญี่ปุ่นทั้งนั้น
แล้วอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในปัจจุบันเป็นอย่างไร ?
ถ้าแบ่งผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นสองกลุ่มใหญ่
จะแบ่งได้เป็น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
และวัตถุดิบสำคัญที่ใช้ในการผลิตอย่างเซมิคอนดักเตอร์
สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในชีวิตประจำวันในตลาดโลก ตัวอย่างเช่น
สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ต เจ้าตลาดคือ Samsung และ Apple
แล็ปท็อป เจ้าตลาดคือ Lenovo และ HP
เครื่องซักผ้า เจ้าตลาดคือ Haier และ Whirlpool
ตู้เย็น เจ้าตลาดคือ Haier และ LG
โทรทัศน์ เจ้าตลาดคือ Samsung และ LG
ซึ่งแบรนด์ทั้งหมดที่ว่ามานี้ เป็นของประเทศสหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และจีน
หรือแม้แต่อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของโลก ก็มีส่วนแบ่งตลาดหลัก ๆ มาจาก
TSMC ของไต้หวัน และ Samsung ของเกาหลีใต้
จะสังเกตได้ว่า สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบัน
เริ่มไม่เห็นชื่อแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นแล้ว
แล้วทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?
จากมุมมองของอดีตผู้บริหารและพนักงานระดับสูงของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ในญี่ปุ่น
รวมไปถึงมุมมองจากนักวิเคราะห์ สามารถรวบรวมเป็นปัจจัย
ที่ทำให้ญี่ปุ่นเริ่มหายไปจากตำแหน่งผู้นำในตลาดอิเล็กทรอนิกส์ได้ 4 ปัจจัยหลัก
ปัจจัยแรก สินค้าคุณภาพสูง จนเกินความต้องการของผู้ซื้อ
สินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากประเทศญี่ปุ่น ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพ
สะท้อนได้จากปรัชญาในการผลิตที่เรียกว่า “Monozukuri” หรือ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์
ที่มีคุณภาพสูงโดยใช้ทักษะและเทคโนโลยี
แต่คุณภาพของสินค้า ก็ต้องตามมาด้วยราคาขายที่สูงขึ้นตาม
ซึ่งคุณภาพบางอย่าง ก็สูงเกินความต้องการของผู้ใช้งานจริง
โดยที่หลายคนไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องจ่ายแพง เพื่อให้ได้ฟังก์ชันการใช้งานเหล่านั้น ยกตัวอย่างเช่น
Sony เป็นบริษัทแรก ๆ ของโลกที่ขายโทรทัศน์จอ LCD
ก่อนที่หนึ่งปีให้หลัง Samsung จะวางขายและใช้ชื่อว่าจอ LED แทน
ขณะที่ Sony ใช้กลยุทธ์สินค้าคุณภาพสูงมาก เทคโนโลยีหน้าจอสุดล้ำ
หน้าจอบางที่สุด ส่งผลให้ราคาขายก็สูงขึ้นตามไปด้วย
Samsung กลับเน้นการตั้งราคาแบบเข้าถึงคนส่วนใหญ่ มากกว่ากลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
จึงคุมต้นทุนการผลิต โดยเลือกเฉพาะฟังก์ชันการใช้งานที่จำเป็นแทน และเน้นที่ดีไซน์
ซึ่งกลยุทธ์แบบ Samsung ก็สามารถครองส่วนแบ่งตลาดไปได้มากที่สุด
หรือในการแข่งขันของสมาร์ตโฟน ที่มี iPhone ของ Apple เป็นผู้บุกเบิก
Sony และ Samsung ต่างเข้ามาแข่งขันด้วย ซึ่งทั้งคู่ยังคงใช้กลยุทธ์แบบเดิม
Sony Xperia มีฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ในขณะที่ Samsung Galaxy มีหลายรุ่นให้เลือก โดยยอมลดทอนฟังก์ชันการใช้งานลงมา เพื่อให้ตั้งราคาขายแบบเข้าถึงง่าย จึงยืนระยะได้นานและยังคงเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนอันดับต้น ๆ ของโลก
ปัจจัยที่สอง ให้ความสำคัญเรื่องการตลาดน้อยเกินไป
บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ในญี่ปุ่น เน้นการแข่งขันด้วยเทคโนโลยี เช่น การคิดค้นสินค้ารุ่นใหม่ที่บางสุด มีขนาดเล็กที่สุด แต่ยังขาดปัจจัยที่มีผลโดยตรงกับลูกค้า นั่นคือดีไซน์ ความง่ายในการใช้งาน และวิธีการสื่อสารกับลูกค้า ยกตัวอย่างเช่น
ปี 2004 Sony ขายอุปกรณ์อ่านอีบุ๊กที่ชื่อว่า Librie เป็นเจ้าแรกของโลก
ก่อนหน้าที่ Amazon จะขาย Kindle นานถึง 3 ปี
แต่เหตุผลที่ Kindle กลายมาเป็นเจ้าตลาดอุปกรณ์อ่านอีบุ๊ก
นอกเหนือจากการที่ใช้งานง่ายกว่าแล้ว
Amazon โฟกัสที่การขายอีบุ๊กมากกว่าตัวอุปกรณ์อ่าน
ในขณะที่ Sony โฟกัสที่การขายตัวอุปกรณ์อย่างเดียว
Kindle จึงเชื่อมโยงถึงผู้ซื้อได้มากกว่า
ในด้านของเหตุผลที่ว่าซื้ออุปกรณ์นี้ไปเพื่ออะไร
และกลายมาเป็นเจ้าตลาดในที่สุด
ปัจจัยที่สาม โดดเด่นในการพัฒนาฮาร์ดแวร์ แต่ไม่ถนัดพัฒนาซอฟต์แวร์
สินค้าที่แบรนด์จากญี่ปุ่นคิดค้นแล้วประสบความสำเร็จ มักเป็นการพัฒนาที่ตัวอุปกรณ์และเครื่องกล
อย่างเช่นเครื่องเล่น Walkman, เครื่องเล่นซีดี และเครื่องเล่นเกม ซึ่งได้รับความนิยมสูงมากในช่วงที่เริ่มวางขาย แต่สินค้าเหล่านี้ไม่ได้มีระบบปฏิบัติการ หรือระบบนิเวศที่ดึงให้ผู้ใช้งานยังคงใช้ฮาร์ดแวร์เหล่านั้นไปเรื่อย ๆ
ในขณะที่การคิดค้นระบบปฏิบัติการของ Apple เป็นตัวอย่างที่ดีในการทำฮาร์ดแวร์ให้เป็นมากกว่าฮาร์ดแวร์
iOS และ macOS ได้เข้ามามีบทบาททำให้ธุรกิจซอฟต์แวร์เติบโตแบบก้าวกระโดด
โดยประเทศญี่ปุ่นซึ่งยังไม่ถนัดในเรื่องนี้ จึงไล่ตามประเทศที่เป็นผู้นำด้านซอฟต์แวร์อย่างสหรัฐอเมริกาไม่ทัน
ปัจจัยสุดท้าย มุ่งพัฒนาเทคโนโลยี ด้วยตัวเอง
ตัวอย่างที่ชัดเจนที่สุด ก็คือผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำในญี่ปุ่น
ในทศวรรษ 1990s รู้หรือไม่ว่าบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นอย่าง NEC ครองส่วนแบ่งตลาดเซมิคอนดักเตอร์
มากที่สุดในโลก และยังมี Toshiba กับ Hitachi ที่มีส่วนแบ่งตลาดรองลงมา
แต่ในทศวรรษ 2000s ผู้นำในตลาดเซมิคอนดักเตอร์กลายเป็น Intel จากสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ Samsung จากเกาหลีใต้เริ่มไล่ตามมาติด ๆ
ปี 2002 Hitachi จึงจับมือกับ Mitsubishi ร่วมกันตั้งบริษัทผลิตชิปที่ชื่อว่า Renesas
เพื่อช่วยพัฒนาเซมิคอนดักเตอร์ไปด้วยกัน และปกป้องตำแหน่งผู้นำในตลาด
ก่อนที่ NEC จะเข้ามาควบรวมในอีก 7 ปีถัดมา
แต่การร่วมมือกันคิดค้นเทคโนโลยีผลิตชิปด้วยตัวเอง มีจุดอ่อนที่สำคัญคือ ช้า
ขณะที่ช่วงนั้น เกาหลีใต้ ไต้หวัน และจีน ใช้กลยุทธ์แบบที่ญี่ปุ่นเคยทำในอดีต
นั่นคือเรียนรู้เทคโนโลยีจากประเทศอื่น
แล้วนำมาต่อยอด ซึ่งกลยุทธ์แบบนี้มีจุดแข็งที่สำคัญคือ ความเร็ว
นั่นจึงทำให้ปัจจุบัน TSMC จากไต้หวัน และ Samsung จากเกาหลีใต้
กลายเป็นผู้นำในการผลิตชิปได้ในที่สุด
และทั้งหมดนี้ คือปัจจัยหลัก ที่ทำให้แบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น
เริ่มหายไปจากตำแหน่งผู้นำในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
ยิ่งในช่วงหลังปี 2010 ที่สมาร์ตโฟนและแท็บเล็ตกลายมาเป็นสินค้าจำเป็น
และแบรนด์ที่เป็นเจ้าตลาดในสินค้าเหล่านั้น ก็พัฒนาสินค้าประเภทอื่น
จนเป็นผู้นำในตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปได้เกือบทุกประเภท
ขณะที่บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น กลับต้องผ่านช่วงล้มลุกคลุกคลาน
บางบริษัทต้องเผชิญการขาดทุนอย่างหนัก จนต้องหาทางอยู่รอดกันต่อไป ยกตัวอย่างเช่น
Sharp ขายกิจการให้ Foxconn ของไต้หวันไปแล้ว
Panasonic ควบรวมกับ Sanyo
ขณะที่บริษัทที่ได้ไปต่อ ก็ยังคงมีผลประกอบการที่ตามหลังคู่แข่ง ซึ่งเรื่องนี้ก็ส่งผลให้งบลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนา มีน้อยลงไปด้วย การเร่งความเร็วในการไล่ตามคู่แข่ง จึงทำได้ไม่ง่ายนัก
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่าแบรนด์อิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่ในญี่ปุ่น
จะแก้เกมจนกลับสู่การเป็นผู้นำในตลาดโลกได้อีกครั้งหรือไม่
หรือจะเสียตำแหน่งไป แบบไม่มีวันทวงคืน..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.wsj.com/articles/SB10000872396390444840104577551972061864692
-https://www.bbc.com/news/world-asia-21992700
-https://money.cnn.com/2017/05/04/technology/japanese-companies-fall-toshiba-olympus-sanyo-sharp/index.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Electronics_industry
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_Japanese_inventions_and_discoveries#Audio_technology
-https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/appliances-market
-https://www.icinsights.com/news/bulletins/Lone-Japanese-Semiconductor-Supplier-Ranked-Among-Top-10-In-1H13/
-https://technology.inquirer.net/89835/from-sony-to-samsung-how-tech-leadership-migrated-from-japan-to-korea
nec lenovo 在 IAUMReview รีวิวมือถือ & อัพเดทข่าวไอที Facebook 的最佳解答
ปีนี้ มีอะไรให้เล่นอีกเยอะเลย งาน CES2021 ปีนี้ มีมาอัปเดตกันเรื่อยๆนะคะ 🔥🔥🔥
https://www.iaumreview.com/lavie-mini/
nec lenovo 在 戸田覚 Youtube 的最讚貼文
パソコンが壊れたときに直せる期間はメーカーごとに異なります。これを知らずに買うと、2~3年で故障が直せないってこともあるんです! 詳しく紹介します。
なお、メーカーにコメントを求めていますが、まだ返事の来ていないところもあります。情報が集まり次第追記します。
●dynabookの機種別修理一覧はこちらにあります
https://dynabook.com/assistpc/repaircenter/partslimit.htm
★ツイッターです
@ava_garde01
●テレワークの本が出ました
https://amzn.to/2IGZvLd
●プレゼンの本が新登場しました!
https://amzn.to/2Y57Eyq
●連載など
・「刺さる」プレゼンの極意 https://xtrend.nikkei.com/atcl/contents/18/00112/?i_cid=nbpnxr_index
・Microsoft Officeで業務効率アップ! https://swri.jp/article/566
・戸田覚のIT辛口研究所 https://tech.nikkeibp.co.jp/it/atcl/c...
・話題の製品買うかどうかでまよったら https://tech.nikkeibp.co.jp/atcl/nxt/...
・アプリオ https://appllio.com/
・スマートワーク総研 https://swri.jp/article/61009
動画内の情報は、利用時のテストに基づきます。あらゆる環境で対応できるとは限りません。また、ミスもございますので、製品、アプリなどの利用はご自身の判断でお願いします。利用規約などもご自身でご確認ください。また、利用環境やハードウエアの利用可否などはメーカー問にご自身でご確認ください。
nec lenovo 在 アスキー Youtube 的最佳貼文
★★★今週の注目NEWSランキング★★★
第5位 日本に来る可能性はあるか? シャオミが「Mi Band 5」やスマート電動スクーターを発表
https://ascii.jp/elem/000/004/020/4020152/
【関連】シャオミの新スマートバンド「Mi Band 5」は日本のアニメキャラ推しがすごい
https://ascii.jp/elem/000/004/019/4019450/
第4位 偉い人は「上座」に表示、議事録は自動で作成 ビデオ会議に新機能続々
https://ascii.jp/elem/000/004/019/4019500/
第3位 アドビ新スマホアプリ「Photoshop Camera」使ってわかった○と△
https://ascii.jp/elem/000/004/019/4019932/
第2位 アイリスオーヤマの工事不要エアコン、便利だが難点も
https://ascii.jp/elem/000/004/019/4019949/
第1位 iOS 13.6配信開始 iPhoneがクルマの鍵になる機能追加
https://ascii.jp/elem/000/004/020/4020079/
【関連】アップル「CarKey」と高級車メーカーの不都合な関係
https://ascii.jp/elem/000/004/018/4018022/
------------------------------------------------
★生放送
7/20(月)20:00〜20:30 スマホ総研定例会
7/21(火)19:00〜 【豪華プレゼント】インテル史上最速ゲーミングCPU「Core i9-10900K」は俺のメーカーのマザーで使ってくれ!自作業界オンラインミーティング
https://ascii.jp/elem/000/004/018/4018838/
7/22(水)20:00〜 【高須院長ほか出演】求む!奇想天外な「人・発想・技術」~異能vation特別企画
https://ascii.jp/elem/000/004/019/4019883/
------------------------------------------------
アスキーのNEWSメディア『ASCII.jp』で注目を集めたこの1週間の記事をランキング形式でお届け!ASCIIブランド総編集長こばQ 、副編集長オカモト、MCつばさの3人が、ゆるふわっとおしゃべりする60分番組です。
▽出演者
こばQ(ASCIIブランド総編集長)
オカモト(ASCII.jp副編集長)
つばさ(@tsubasa_desu) https://twitter.com/tsubasa_desu
▽ゲスト
デビット・ベネット氏(レノボ・ジャパン代表取締役社長 兼 NECパーソナルコンピュータ代表取締役執行役員社長)
放送委員:ラッキー橋本、エンジョイ阿部
----------------------------------------------
★ムービーサイト「アスキーTV」http://ascii.jp/asciitv/
★ニュースサイト「ASCII.jp」http://ascii.jp/
★超ファンクラブ「ASCII倶楽部」http://ascii.jp/asciiclub/
----------------------------------------------
nec lenovo 在 うっしーならいふ Youtube 的精選貼文
おすすめのパソコンメーカー→https://usshi-na-life.com/2018/12/24/pcmaker-osusume-ranking/
マウスコンピューターの評判まとめ
https://usshi-na-life.com/2018/02/15/mouse-hyouban/
デルの評判まとめ
https://usshi-na-life.com/2018/12/23/dell-hyouban/
HPの評判まとめ
https://usshi-na-life.com/2018/09/03/hp-hyouban/
ASUSの評判まとめ
https://usshi-na-life.com/2019/02/13/asus-hyouban/
レノボの評判まとめ
https://usshi-na-life.com/2018/09/28/lenovo-hyouban/
家電量販店で購入するメリットとデメリット
→https://usshi-na-life.com/2018/01/29/personal-computer-purchase/
当チャンネルはうっしー(投稿者)の個人的な見解を述べるチャンネルです。
僕の発言で起きたトラブルなどのサポートは一切行っておりません。コメント欄の「〇〇のおすすめは?」などに回答することもありますが、基本的に僕は責任を負えませんので自己責任でお願いします。
撮影機材
メインカメラSONY α7RM4 https://amzn.to/2NjT00y
サブカメラ SONY α7Ⅱ https://amzn.to/37XCuLC
マイク RODE VideoMicro https://amzn.to/3a20mPJ
レンズ タムロン 24-75mm f2.8 https://amzn.to/2FEiaCT
レンズ タムロン 17-28mm f2.8 https://amzn.to/2uEBvS6
ブログ→https://usshi-na-life.com/
Twitter→https://twitter.com/usshi_na_life
当チャンネルではメーカーからの提供や案件を依頼して動画を制作することがあります。表記記載や僕自身が「借りた」と発言した場合は提供でございます。
また、当チャンネル『うっしーならいふチャンネル』はAmazon.co.jpを宣伝しリンクすることによってサイトが紹介料を獲得できる手段を提供することを目的に設定されたアフィリエイトプログラムである、Amazonアソシエイト・プログラムの参加者です。